ยินดีต้อนรับเข้าสู่สาระการเรียนรู้เกี่ยวคอมพิวเตอร์

วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556

ทำความรู้จัก COMPUTER PORTS

ทำความรู้จัก COMPUTER PORTS

Port ช่องทางสื่อสารของคอมพิวเตอร์

Computer Ports

โดยปกติคอมพิวเตอร์ที่ทั่วไปที่ประกอบเสร็จ และได้ติดตั้งโปรแกรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะสามารถทำงานได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมใด ๆ แต่อย่างไรก็ตาม ความต้องการของเราก็มีมากกว่าการใช้งานคอมพิวเตอร์ปกติ ดังนั้น จึงมีการนำอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ มาใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้เกิดการสร้าง Port เพื่อเป็นช่องทางเสริมในการใช้งานอุปกรณ์อื่น ๆ ร่วมกับคอมพิวเตอร์..
Port พอร์ต เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารระหว่างตัวคอมพิวเตอร์ กับอุปกรณ์ภายนอก เพื่อเสิรมความสามารถให้คอมพิวเตอร์ โดยปกติพอร์ตจะอยู่ด้านหลังเครื่องคอมพิวเตอร์ (อาจมีบางยี่รุ่น บางยี่ห้อที่อยู่ด้านหน้า)

พอร์ตอนุกรม (Serial Port)

  • พอร์ตอนุกรมจะมีหัวเข็ม 9 เข็ม หรือ 25 เข็ม (พอร์ตนี้จะเป็นตัวผู้ เพราะมีเข็มยื่นออกมา)
  • พอร์ตนี้จะต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เม้าส์ โมเด็ม สแกนเนอร์ เป็นต้น
  • สามารถต่อความยาวได้ถึง 6 เมตร และราคาสายก็ไม่แพงนัก 

พอร์ตขนาน (Parallel Port)

  • พอร์ตขนานจะมีรู 25 รู (พอร์ตนี้จะเป็นตัวเมีย หมายถึงมีรูที่ตัวพอร์ต)
  • พอร์ตนี้จะต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องพิมพ์ เทปไดร์ฟ สแกนเนอร์ เป็นต้น
  • สามารถต่อความยาวไม่มากนัก แถมมีราคาแพงกว่าสายของพอร์ตอนุกรมด้วย
  • การส่งสัญญาณจะส่งได้เร็วกว่าพอร์ตอนุกรม

พอร์ต USB (Universal Serial Bus Port)

  • คอมพิวเตอร์ปกติจะมี 2 USB Port ถ้าเป็นเครื่องรุ่นเก่าที่ไม่มี USB สามารถหาซื้อการ์ด USB มาติดตั้งได้
  • เป็นช่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ สูงประมาณ 3-5 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 1-2 เซ็นติเมตร
  • พอร์ตชนิดใหม่รับส่งความเร็วได้สูงกว่า port ทั่ว ๆ ไป
  • สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อเนื่องได้ 127 ตัว
  • เป็นมาตราฐานใหม่ที่มีมากับเครื่องคอมพิวเตอร์
  • การติดตั้ง เพียงต่ออุปกรณ์เข้ากับ USB port ก็สามารถใช้งานอุปกรณ์นั้นๆ ได้ โดยไม่จำเป็นต้อง boot เครื่องใหม่
  • นอกจากพอร์ตอนุกรมและขนานแล้ว ยังมีพอร์ตอื่น ๆ อีกได้แก่ พอร์ตคีย์บอร์ด, พอร์ตเกมส์, พอร์ตจอ เป็นต้น

อ้างอิงจาก http://it-guides.com

การใช้งาน WINDOWS 7 THEMES

การใช้งาน WINDOWS 7 THEMES และ DOWNLOAD

ทำความรู้จัก Windows Theme

โดยปกติแล้ว Windows 7 เราสามารถปรับเปลี่ยนฉากหลัง (Wallpaper) ได้ง่ายๆ โดยการเข้าไปดูไฟล์รูปภาพนั้นๆ จากนั้นคลิกขวา เลือก Set as desktop background แต่สำหรับ Windows Theme สามารถปรับเปลี่ยนอย่างอื่นๆ เพิ่มเติมได้อัตโนมัติ เช่น การเปลี่ยนภาพแบบอัตโนมัติตามเวลาที่เราต้องการ เป็นต้น

คุณสามารถดาวน์โหลด Windows 7 Themes ได้ที่นี่ :: Download Windows 7 Themes::
ลิงค์ข้างต้น เป็นลิงค์จากเว็บไซต์ Microsoft โดยตรง ดังนั้น คุณจึงเชื่อมั่นได้ว่า ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับไวรัส

Windows 7 Themes download tip

ทิปการ download และติดตั้ง Windows 7 Themes

  1. เข้าไปยังลิงค์ข้างต้น หรือ คลิกที่นี่ :: Download Windows 7 Themes::
  2. คลิกเลือกหัวข้อ Windows 7 Themes
  3. คลิกเลือกกลุ่มประเภทของ Themes เช่น เลือก Beautiful Birds เป็นต้น
  4. คลิกปุ่ม Download
  5. จะพบหน้าต่างให้เลือก Open | Save | Cancel
  6. คลิก Open เพื่อ download และติดตั้งอัตโนมัติ

อ้างอิงจาก http://it-guides.com

ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์

ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์


ส่วนประกอบหลัก ๆ ของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วย

1. ตัวเครื่อง (บางคนมักเรียกว่า ซีพียู) ภายในตัวเครื่องจะมีอุปกรณ์ที่สำคัญหลัก ๆ คือ
    • MainBoard - MasterBoard :: เมนบอร์ด หรือ มาสเตอร์บอร์ด คือแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์หลักของคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ทุกชนิดจะต่อเชื่อมกับอุปกรณ์ชิ้นนี้
    • Central Processing Unit - CPU :: ซีพียู คือสมองของคอมพิวเตอร์ นำหน้าที่ประมวลผลข้อมูล ซีพียูเป็นส่วนประกอบหลักในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ สำหรับแบรนด์ ของซีพียูที่ใช้ในปัจจุบันคือ Intel, AMD
    • VGA Card :: การ์ดแสดงผล เป็นการ์ดขยายที่ทำหน้าที่แปลงคำสั่งที่ได้จาก CPU ในรูปแบบที่จอภาพเข้าใจ
    • Power Supply :: หม้อแปลงไฟฟ้า ทำหน้าที่แปลงไฟฟ้าบ้านมาเป็นไฟฟ้าที่ใช้ในเครื่องคอมฯ 
    • RAM (Random Access Memory) :: หน่วยความจำ หรือ แรม (RAM : Read Access Memory) เป็นพื้นที่ที่ใช้ในการประมวลผล ข้อมูลชั่วคราว เมื่อปิดเครื่องคอมฯ ข้อมูลที่มีการประมวลผลจะหายไปทันที
    • Har ddisk :: ฮาร์ดดิสก์ คือ พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลหลักของคอมฯ ฮาร์ดดิสก์ตัวแรกจะถูกกำหนดเป็น "ไดร์ฟ C" เสมอ
    • Floppy Drive :: ฟลอปปี้ไดรฟ์ คือช่องขับดิสก์ (ดิสก์เก็ต) ทำหน้าที่ในการอ่านและบันทึกข้อมูลในแผ่นดิสก์
    • CD-ROM Drive :: ซีดีรอมไดรฟ์ คือช่องสำหรับอ่านแผ่น CD-R, CD-RW หรือ CD-Audio ปัจจุบันจะมี DVD Drive สำหรับอ่านแผ่น DVD รวมทั้งสามารถอ่านแผ่น CD-R ได้ด้วย
    • Sound Card :: การ์ดเสียง ทำหน้าที่ในการสร้างเสียง โดยมีโปรแกรมควบคุมและสั่งงาน
Inside Computer

Computer Parts2. จอภาพ ทำหน้าที่แสดงอักษร ข้อความและรูปภาพที่สร้างจากการ์ดแสดงผล ขนาดของจอภาพ วัดจาก ความยาวเส้นทแยงมุมของจอภาพ ขนาดมาตราฐานของจอภาพขั้นต่ำในปัจจุบันคือ 17 นิ้ว สำหรับหน่วยที่ใช้วัด เรียกว่า ดอตพิตช์ (Dot Pitch) ยิ่งมีขนาดเล็กจะมีความคมชัดสูง สำหรับขนาดดอตพิตช์ มาตราฐานไม่ควรมากกว่า 0.28 มิลลิเมตร ปัจจุบันมีจอภาพที่กำลังเป็นที่สนใจมากคือ จอแบน (LCD) ซึ่งกินพื้นที่ในการติดตั้งน้อยมาก แต่ราคาปัจจุบันค่อนข้างถูกลงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับจอภาพ CRT
3. คีย์บอร์ด และเม้าส์ เป็นอุปกรณ์ในการสั่งงานและป้อนข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ 

การเปลี่ยน HOTMAIL เป็น OUTLOOK

การเปลี่ยน HOTMAIL เป็น OUTLOOK


outlook-loginในที่สุด Microsoft ก็ได้เปิดตัว Outlook.com ที่เป็น free email หลังจากที่ปล่อยให้ GMail ของ Google ได้รับความนิยมมากขึ้นแบบดีวันดีขึ้นด้วยคุณสมบัติและการใช้งานที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า Hotmail อยู่หลายเรื่อง ทำให้ต้องตัดสินใจทิ้ง Hotmail ที่ซื้อมาตั้งแต่ปี 1998 และไม่ได้พัฒนาอย่างจริงจังมานาน ประมาณว่าถือโอกาส re-brand ใหม่เป็น @outlook.com แทน 
ด้วยหน้าตาสีสรรที่มาใหม่ของ Outlook.com ได้เพิ่ม features และ functions ต่าง ๆ โดยเฉพาะกับการเชื่อมโยงกับ social network ต่าง ๆ อย่าง Facebook, Twitter และ LinkedIn เพื่อให้ผู้ใช้สามารถจัดการกับ email และ chat รวมกันไว้ในหนึ่งเดียว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ Video Chat ของ Skype ได้อีกด้วย
หากวันนี้คุณใช้ @hotmail.com คุณสามารถที่จะโอนย้ายเข้าไปใช้ @outlook.com ตามคำแนะนำข้างล่างนี้ได้อย่างง่าย แต่ขอแนะนำว่า กรุณาทำความเข้าใจให้ดีก่อน เพราะเดินหน้าได้ ถอยหลังไม่ได้นะครับ เอาล่ะ! มาลงมือกันเลย
*หากคุณ Sign-in ในหน้า Hotmail.com อยู่ก่อนแล้ว ขอแนะนำให้คุณ Sign-out ออกก่อน
1) เข้าหน้าเว็บ www.outlook.com
2) Sign-in ด้วยอีเมลล์ @hotmail.com ของคุณ
outlook-login
3) คุณจะพบหน้าแสดงอีเมลล์คล้าย ๆ กับใน Hotmail และมีกล่องข้อความ Welcome.... ขึ้นมา เมื่ออ่านแล้วให้ click ที่ "Close"
4) มีอีเมลล์ใหม่สุดเข้ามาจาก Outlook Team ชื่อหัวเรื่องว่า "Get to know what's new in Outlook" ให้คุณ click เพื่อเปิดอ่าน
outlook-get to know

5) เมื่อเปิดอ่านอีเมลล์นี้แล้ว ให้ click ที่ "Get new ID" เพื่อที่คุณจะได้สร้าง @outlook.com ในหน้าต่อไป
outlook-get to know email
6) ที่หน้า Rename your email address นี้ ระบบจะให้คุณป้อนอีเมลล์ @outlook.com ตามที่คุณต้องการ หากคุณป้อนชื่อเหมือนกัน @hotmail.com คุณก็จะได้อีเมลล์ใหม่ของ @outlook.com แต่หากคุณจะถือโอกาสเปลี่ยนชื่อในตอนนี้เลยก็ทำได้ เพียงคุณใส่ชื่อใหม่ที่ต้องการ หากเป็นชื่อที่ไม่ซ้ำกับใครอยู่ก่อนแล้ว คุณจะสามารถใช้ชื่อใหม่ตามที่ป้อนไปได้ทันที
คำเตือน: หลังจากคุณสร้างชื่อใหม่แล้ว ต่อไป คุณจะต้อง Sign-in ด้วยชื่อใหม่ และจะไม่สามารถกลับไป Sign-in ด้วย @hotmail.com ได้อีกเลย แต่ Microsoft ยังคงให้คุณสามารถใช้อีเมลล์เดิม @hotmail.com ได้อยู่ คือ เมื่อมีใครส่งอีเมลล์มาที่ @hotmail.com ของคุณ มันก็จะถูกส่งไปที่ @outlook.com ของคุณเอง ไม่หายไปไหนครับ :)
outlook-rename hotmail address

7) เนื่องจากว่า Outlook.com จะทำการโอนอีเมลล์ @hotmail.com ของคุณมาไว้ในนี้ จึงให้คุณกำหนดชื่อ folder ที่จะใช้เก็บอีเมลล์ ให้คุณตั้งชื่อได้ตามต้องการ
8) Click ที่ "Done"
outlook-folder old email

ภาพแสดงการโอนอีเมลล์จาก @hotmail.com มาไว้ใน @outlook.com 
outlook-email transfer
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว ต่อไปนี้คุณก็จะสามารถใช้ @outlook.com ได้ และอย่าลืมว่า ไม่ว่าจะเป็นหน้าอีเมลล์ หรือ MSN ของคุณ จะต้อง Sign-in ด้วย @outlook.com ใหม่ที่คุณเพิ่งสร้างขึ้นมานี้
outlook-login


อ้างอิงจาก http://it-guides.com

บริหารจัดการ การใช้พลังงานใน WINDOWS 7

บริหารจัดการ การใช้พลังงานใน WINDOWS 7

คุณมีวิธีการประหยัดพลังงานอย่างไร



Windows Mobility Center for Windows 7

                          ณ ที่นี้ขอพูดถึง Windows 7 ซึ่งถือว่าเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดในตอนนี้ ในปี 2555 เรามาดูกันสักนิดว่า เวลาใช้งาน Notebook, Netbook หรือ Tablet ที่ใช้ Windows 7 การประหยัดพลังงานและใช้ให้เหมาะสมดูจะเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อย โดยเฉพาะถ้าคุณอยู่ในสถานที่ที่ไม่สะดวกในการหาที่ชาร์ตแบตฯ เรามาดูสิว่าจะมีเทคนิดอะไรที่ช่วยประหยัดพลังงานได้ แต่ต้องไม่กระทบการใช้งานปกติด้วยน่ะครับ อันนี้สำคัญมาก
คุณคิดว่าวิธีประหยัดพลังงานวิธีใด ดีที่สุด

ทิปการประหยัดพลังงานบนโน๊ตบุ๊ค

  • ลดความสว่างของหน้าจอ อันนี้ช่วยได้แน่นอน เพราะหน้าจอถือเป็นอุปกรณ์ที่กินไฟมากที่สุดอย่างหนึ่ง
  • ปิด Wi-Fi / Bluetooth ถ้าไม่ใช้ เพราะอีกหนึ่งตัวกินหลังงาน
  • Processor หรือตัวประมวลผล ก็กินไฟมากพอสมควร แต่ก็ไม่มากนัก
  • เปิดลำโพงดังๆ เปิดดูวีดีโอ หรือฟังเพลง ตัวการสำคัญที่กินพลังงานเช่นกัน

วิธีการปรับแต่งเพื่อการประหยัดพลังงาน

  1. เปิดโปรแกรมที่มาพร้อมกับ Windows 7 ที่ชือว่า Windows Mobility Center เพียงแค่กดปุ่มรูปโลโก้ Windows ในช่อง Search พิมพ์คำว่า Mobility จะพบหัวข้อ Windows Mobility Center คลิกเลือก
  2. จะพบหน้าต่าง Windows Mobility Center
  3. คลิกปรับแต่งในส่วนของ Display brightness
  4. ปิดในส่วนของ Bluetooth ถ้าไม่ใช้งาน
  5. ปิดในส่วนของ Wireless Network ถ้าไม่ใช้งาน                       

อ้างอิงจาก http://it-guides.com

วิธี BACKUP DRIVER เก็บไว้

วิธี BACKUP DRIVER เก็บไว้


backup driver

เคยบ้างไหมครับ เมื่อถึงคราวจำเป็นต้อง format hard disk ลง Windows ใหม่ แต่ไม่มี driver?  เชื่อว่าหลายท่านยังไม่ทราบเลยว่าเครื่องที่ใช้อยู่นั้น driver อยู่ที่ไหน ดังนั้น ในขณะที่คอมพิวเตอร์ของท่านยังใช้งานได้ดีอยู่ เรามา backup driver เก็บไว้ก่อนดีไหมครับ? มีโปรแกรมหนึ่งที่น่าสนใจมาก download มาใช้ได้ฟรี (มีขายตามจำนวน license ด้วย) ชื่อ Driver Genius Professional ใช้งานง่าย นอกจาก backup driver เก็บในรูปแบบไฟล์ที่นำไปใช้ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีโปรแกรมนี้แล้ว ยังสามารถ update driver ที่ใหม่กว่าได้อีกด้วย ลองมาดูวิธีการใช้งานกัน
1. ติดตั้งไฟล์ที่ download มา และสั่ง run program
2. หน้าแรกที่ขึ้นมาให้ click ที่ปุ่ม Start Scan แล้วรอโปรแกรมการค้นหาและตรวจสอบ driver ในเครื่องคอมพิวเตอร์
3. หลังจาก scan แล้ว เท่าที่ทดสอบมาหลายเครื่อง จะพบข้อความแจ้งเรื่อง driver ที่ใช้อยู่มี error หรืออาจต้องการ update มีปุ่มเดียวที่ click ได้คือ Fix now
4. มีข้อความแนะนำให้เรา Register เพื่อ udpate driver ตรงนี้ถ้าเราตอบ Yes ก็ต้องไป register ก่อน แต่ผมเลือก No เพื่อกลับมาที่เมนูทางซ้ายมือของโปรแกรม
5. สั่งเมนู Back up Drivers จะเห็นโปรแกรมทำการ scan driver อีกครั้ง
6. เมื่อเสร็จแล้ว โปรแกรมจะแสดงจำนวน Drivers ที่จะทำการ backup, ตรงนี้เรา click เปิดดูรายละเอียดของ driver ได้, เสร็จแล้ว click ที่ Next หมายถึงเลือกทั้งหมด และทำต่อไป
backup driver
7. โปรแกรมให้เลือกเลือกว่าจะ save ไฟล์ backup นี้เก็บไว้ที่ไหน, เลือกได้แล้ว click ที่ Next เพื่อให้โปรแกรมเริ่มกระบวนการบันทึก backup drivers ต่าง
backup driver
8. เมื่อ save เสร็จแล้ว ให้เข้าไปดูใน folder ที่เราเลือกไว้ จะเห็นว่า มี folder ของแต่ละ drivers อยู่มากมาย และในแต่ละ folder นั้น็มีไฟล์ driver ของมันเองด้วย ซึ่งเราสามารถนำไปใช้ในเวลาที่ลง Windows ใหม่ได้เลย
backup driver
ถึงแม้จะมี folder มากมาย แต่ก้ไม่ต้องตกใจ เพราะเราจะไม่ได้ใช้ทั้งหมด เนื่องจากว่า driver ส่วนมากนั้นเป็นของอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์ และ mainboard เอง ซึ่งมักมีอยู่ใน Windows เองอยู่แล้ว ดังนั้นเวลานำไปใช้ในเวลาที่ลง Windows ใหม่นั้น Windows จะบอกเราเองว่าต้องการ driver ของอะไร เราก็เพียงแค่บอกให้ Windows ไปหาใน foder ที่เราเก็บ driver นี้ไว้ เท่านี้ เราก็ไม่มีปัญหาเรื่อง driver แล้ว

อ้างอิงจาก http://it-guides.com


วิธีซ่อน FOLDER

วิธีซ่อน FOLDER



วิธีซ่อน folder

เทคนิคการซ่อน folder ไม่ให้ใครเห็น เป็นการพรางตัวของ folder แบบง่าย ๆ แต่ก็ใช่ว่าจะซ่อนได้มิดชิดนะครับ เพราะว่าถ้าซ่อนไว้มิดชิดมากไป เราเองนั่นแหล่ะที่จะหาไม่เจอ :) มาลองดูวิธีการกันครับ
1. คลิ๊กเปลี่ยนชื่อ folder (rename)
2. แทนที่จะพิมพ์ชื่อใด ๆ ให้กดปุ่ม ALT ค้างไว้ แล้วตามด้วยเลข 0160 จะได้ค่าว่างเปล่าแทนที่ชื่อ ปล่อยปุ่ม ALT (สิ้นสุดการใช้ตัวอักขระพิเศษ) แล้วกด Enter (สิ้นสุดการเปลี่ยนชื่อ)



hide folder


3. ชื่อ folder จะกลายเป็น blank, แต่ยังคงมี icon รูป folder อยู่
hide folder
4. click ขวาที่รูป folder, เลือก Properties, Customomize, Change Icon...
5. เลื่อนหา icon ที่เป็นรูปว่างเปล่า แล้ว OK, OK ออกไป
change folder icon

6. คราวนี้ ทั้งชื่อ และ icon folder หายไปแล้ว ถ้าต้องการเข้าไปใน folder นี้ ก็ให้ใช้ mouse ลากคลุมในตำแหน่งของ icon folder ก็จะมองเห็นว่ามันพรางตัวอยู่
hide folder

เพิ่มเติม
1. ถ้าจะซ่อน ก็ควรไปซ่อนไว้ใน folder ซ่อน folder (กี่ชั้นก็ได้ ตามต้องการ) เพราะว่า folder ที่พรางตัวนั้นจะแสดง icon เป็นกรอบเปล่าให้เห็นเมื่อ folder ที่มันไปหลบอยู่นั้น ถูก view แบบ large icon
2. ถ้าเครื่องที่ใช้งานอยู่ ไม่สามารถกดปุ่ม ALT เพื่อเรียกตัวอักขระพิเศษได้ ให้ไปที่ Start, Run แล้วพิมพ์คำสั่ง charmap จะปรากฎตารางอักขระพิเศษขึ้นมา ให้เลื่อนหาช่องที่เป็นว่าง ๆ แล้ว click ที่ Select, Copy เพื่อมา Paste ตอนที่เราต้องการเปลี่ยนชื่อ folder เป็นค่าว่างเปล่าได้เหมือนกันครับ
character map

อ้างอิงจาก http://it-guides.com

ลองเปลี่ยนจาก DOUBLE CLICK เป็นแค่ CLICK


ลองเปลี่ยนจาก DOUBLE CLICK เป็นแค่ CLICK เดียวดีกว่าไหม


ใครเคยคิดบ้างไหมว่า เวลาเราต้องการที่จะหาไฟล์สักไฟล์หนึ่ง ก็ต้องเปิดไล่หาโฟลเดอร์นั้น โฟลเดอร์นี้ แล้วก็ต้อง คลิ๊ก ๆ คลิ๊ก ๆ คลิ๊ก ๆ ไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเพื่อเปิดหาไฟล์ที่ต้องการให้ได้ :(
ลองเปลี่ยนวิธีการกันบ้างดีไหม โดยการลดขั้นตอนจาก คลิ๊ก ๆ เป็นแค่ คลิ๊กเดียว :) อย่างน้อยก็ถือว่าได้เปลี่ยน feel ในการใช้ Windows 7 กันบ้าง ลองดูวิธีการตามนี้ครับ ง่ายนิดเดียว

1. เปิด folder ใดก็ได้ขึ้นมา
2. click ที่แถบเมนู Organize แล้วเลื่อนมาที่ Folder and search options จะมีหน้าต่างย่อยของ Folder Options ขึ้นมา และอยู่ในแถบ General อยู่แล้ว
3. สังเกตที่ส่วนของ Click items as follows ที่มีตัวเลือกเป็น Double-click.... ให้เลือกที่ Single-click.... แทน
4. Click ที่ Apply และ OK
5. ต่อจากนี้เวลาคุณเปิด folder หรือแม้แต่บนหน้า Desktop เอง เพียงแค่คลิ๊กเดียวก็เปิด folder และ file นั้นได้แล้ว :)
หากลองใช้แล้วไม่ชอบ หรืออยากกลับไปใช้แบบเดิม ก็สามารถกลับเข้ามาแก้ไขได้โดยเลือกที่ Double-click.... แค่นั้นเอง


อ้างอิงจาก http://it-guides.com

การใช้ KEYBOARD SHORTCUT ที่เร็วกว่า MOUSE

การใช้ KEYBOARD SHORTCUT ที่เร็วกว่า MOUSE


Shortcut Keyboardสำหรับบางท่าน อาจทราบว่า เราสามารถใช้ปุ่ม keyboard ในการสั่งคำสั่งเหล่านี้ได้ และรวดเร็วกว่า เพราะไม่ต้องเลื่อน mouse เพื่อคลิ๊ก และคลิ๊ก การใช้ปุ่มต่าง ๆ ในการสั่งนี้ เรียกว่า "Keyboard Shortcut" ที่เป็นการใช้ปุ่ม "Command Key" เช่น Ctrl, Shft และ Alt ควบคู่กับปุ่มตัวอักษร A,B,C...
ลองมาดูมีคำสั่งอะไรที่เราใช้กันเป็นประจำ แล้วสามารถทดแทนด้วย Shortcut กันได้ รู้ไว้ใช่ว่า เผื่อวันไหน mouse ไม่ให้ความร่วมมือด้วย เรายังมี keyboard ที่เป็นเพื่อนเราอยู่เสมอ

สำหรับผู้ใช้โปรแกรมบน Windows ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมอะไรก็ตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ mouse ที่ใช้ในการเลื่อนไปคลิ๊กปุ่มคำสั่งต่าง ๆ เช่นคลิ๊กที่ tab menu "File", คลิ๊กที่เมนูย่อย "Save" แต่ในหลาย ๆ โปรแกรมที่ใช้ ในบางครั้งจะสั่ง copy ก็ต้องคลิ๊กที่ tab menu "Edit", "Copy" พอจะไปวางไว้ที่ไหนก็ต้องคลิ๊ก tab menu "Edit", "Paste" ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เราคุ้นเคยกันมานาน
ตารางปุ่ม Shortcut ที่นิยมใช้
ปุ่ม Shortcutคำสั่ง
F1เรียกคู่มือ หรือคำแนะนำของโปรแกรมที่กำลังใช้งานในขณะนั้น
Homeให้ cursor เลื่อนไปอยู่ที่ตำแหน่งเริ่มต้นของบรรทัด
Endให้ cursor เลื่อนไปอยู่ที่ตำแหน่งสุดท้ายของบรรทัด
Ctrl + Aเลือกทั้งหมด (select all)
Ctrl + Cคัดลอก (copy)
Ctrl + Oเปิดไฟล์ (open)
Ctrl + Pสั่งพิมพ์
Ctrl + Sบันทึก (save)
Ctrl + Vวาง (paste)
Ctrl + Xตัดในส่วนที่เลือกไว้ (cut)
Ctrl + Homeให้ cursor เลื่อกลับไปที่ตำแหน่งเริ่มต้นของหน้า
Ctrl + Endให้ cursor เลื่อกลับไปที่ตำแหน่งสิ้นสุดของหน้า
Ctrl + Left arrowให้ cursor เลื่อนไปทางซ้ายทีละคำ ได้ทั้งภาษาไทย และอังกฤษ
Ctrl + Right arrowให้ cursor เลื่อนไปทางขวาทีละคำ ได้ทั้งภาษาไทย และอังกฤษ
Shift + Homeเลือกตั้งแต่จุดที่ cursor อยู่ให้คลุมไปถึงตำแหน่งเริ่มต้นของบรรทัด
Shift + Endเลือกตั้งแต่จุดที่ cursor อยู่ให้คลุมไปถึงตำแหน่งสิ้นสุดของบรรทัด
Shift + F10คลิ๊กขวา
Alt + Eเลือก tab menu "Edit" ของโปรแกรมที่กำลังใช้งานในขณะนั้น
Alt + Fเลือก tab menu "File" ของโปรแกรมที่กำลังใช้งานในขณะนั้น
Alt + PrtSc
(print screen)
copy หน้าจอเฉพาะส่วนที่แสดงในขณะนั้น (ไม่ใช่ทั้งจอภาพ) ไป pasted เป็นไฟล์ภาพ

อ้างอิงจาก http://it-guides.com

เพิ่ม TOOLBARS ที่น่าใช้ให้กับ TASKBAR

เพิ่ม TOOLBARS ที่น่าใช้ให้กับ TASKBAR



มีอยู่ 2 Toolbars ที่อยากชวนให้คุณได้ลองจับมาใส่ Taskbar เพื่อช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น และหากใครมาเห็นเครื่องคุณ ต้องถามแน่ว่า เอ... นี่อะไรกัน วันนี้ขอนำเสนอมาเป็นคู่เลยครับ คือ Address ที่ใช้เปิดเว็บใหม่ และ Desktop ที่จะแสดงไฟล์ต่าง ๆ ที่อยู่บน Desktop รวมถึง folder ของ user ที่ log-in ด้วย
หากคุณกำลังงงกับ Taksbar, Toolbars ก็อย่าเพิ่งกังวล เพราะหากคุณได้ลองทำตามตัวอย่างที่แนะนำไว้ข้างล่างนี้ คุณก็จะรู้จักมันมากขึ้น และอาจชอบทิปนี้ก็ได้ครับ

วิธีเพิ่ม Toolbars
1. คลิ๊กขวาที่ Taksbar, เลือก Properties
2. เลือก tab Toolbars, คลิ๊กที่ช่อง Address และช่อง Desktop (คุณสามารถทดลองครั้งละเรื่อง, ครั้งละหลายเรื่อง และเรื่องอื่น ๆ ได้ตามต้องการ)
เมื่อคลิ๊กเลือกได้แล้ว ให้คลิ๊ก Apply และ OK

 3.คุณจะเห็นว่า มีคำสั่ง Address และ Desktop แสดงบน Taskbar ตามรูป
4.ที่ช่อง Address คุณสามารถใส่ชื่อเว็บที่ต้องการเปิดได้เลย (ไมว่าคุณจะใช้ Web Browser อะไรเป็นหลักก็ตาม)
และหากคุณคลิ๊กที่ Desktop>> คุณจะเห็น file, folder ที่อยู่บน Desktop และสามารถใช้งานได้ทันที


อ้างอิงจาก http://it-guides.com


TOOLS ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก WINDOWS

TOOLS ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก WINDOWS


Tools ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก Windowsนอกจากโปรแกรมต่าง ๆ ที่ถูกติดตั้งบน Windows เพื่อไว้ใช้งานแล้ว อาจยังมีโปรแกรมอื่น ๆ อีกที่คุณไม่ต้องการใช้อีกต่อไป หรือถูกติดตั้งตอนไหนคุณยังไม่ทราบเลยด้วยซ้ำ ร้ายกว่านั้นคือ โปรแกรมพวกนี้ยังทำให้การทำงานของเครื่องคุณช้าลงในทุก ๆ ขั้นตอนอีกด้วย ไม่ว่าจะท่องเว็บ พิมพ์งาน บันทึกข้อมูล ฯลฯ ดังนั้น ขอเชิญมาทำความรู้จักกับ PC Decrapifier กันครับ freeware ที่จะช่วยคุณจัดการกับโปรแกรมที่ไม่ต้องการให้อันตรธานหายไปได้

PC Decrapifier เป็นโปรแกรมขนาดเล็กชนิด Portable Software คือสามารถเรียกใช้ได้โดยไม่ต้องติดตั้ง วิธีการใช้ก็แสนจะง่ายดาย มีรายละเอียดอธิบายด้วยการทำงานไม่กี่ขั้นตอน เรียกว่าแค่ click click next next ยังได้เลย ใช้กำจัดโปรแกรมที่คุณไม่ต้องการ ไม่ว่าจะเกิดจากการตั้งใจติดตั้งลงไป หรือถูกพ่วงติดมากับการติดตั้่งโปรแกรมอื่น รองรับการใช้บน Windows ทุก version ดูรายละเอียด และ download ได้ตามข้างล่างนี้เลยครับ


1. กรณีที่คุณเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ท และ ต้องการตรวจสอบว่า version ที่คุณกำลังเรียกใช้นี้เป็น version ล่าสุดหรือไม่ ให้ click ที่ Check for updates  (ข้ามขั้นตอนนี้ได้)
Tools ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก Windows

2. ตัวอย่างนี้ ข้อความแจ้งว่าเป็น version ล่าสุดแล้ว ให้ click OK เพื่อปิดกล่องข้อความ
3. click Next เพื่อไปขั้นตอนต่อไป
Tools ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก Windows

4. แสดงรายละเอียดของ License ให้ click Next
Tools ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก Windows

5. ข้อความแจ้งว่า PC Decrapifier จะไม่สามารถบอกคุณได้ว่า โปรแกรมใดเป็น freeware หรือ license ที่ซื้อมา, ถูกติดตั้งโดยเจตนาหรือไม่เจตนา ดังนั้น คุณต้องเลือกที่จะลบ หรือ ไม่ลบ ด้วยตัวคุณเอง ให้ click Next
Tools ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก Windows

6. PC Decrapifier ต้องการทราบว่า เครื่องที่ต้องการให้ตรวจสอบนี้ เป็นคอมพิวเตอร์ที่ซื้อมาใหม่ หรือเป็นเครื่องที่ใช้งานมาแล้ว ตรงนี้ก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าในมุมมองของ PC Decrapifier นั้นต่างกันตรงไหน แต่เชื่อว่า ตรรกะ หรือขั้นตอนในการตรวจสอบต้องต่างกัน ตรงนี้ ไม่ว่าจะเครื่องใหม่/เก่าแค่ไหน แนะนำให้เลือก No เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีการตรวจสอบละเอียดกว่า และที่ทดสอบมาแล้ว ก็ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 2นาที
7. click Next
Tools ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก Windows

8. เนื่องจากอาจมีการลบโปรแกรมออกไป (ด้วยคุณเลือกเอง) โดยที่คุณยังต้องการใช้งานอยู่ หรือกรณีเกิดข้อผิดพลาดในระหว่างนี้ จึงแนะนำให้คุณสร้าง Restore Point  เผื่อกรณีที่คุณต้องการกลับสู่สภาพเดิม
Tools ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก Windows

9. ข้อความแจ้งว่าได้สร้าง Restore Point เรียบร้อยแล้ว ให้ click OK เพื่อปิดกล่องข้อความ
10. click Next
Tools ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก Windows

11. แสดงรายชื่อโปรแกรม ที่ PC Decrapifier เชือว่าสมควรจะถูกลบออก จึงแสดงเครื่องหมายเลือกไว้ที่กล่องให้แล้ว แต่คุณยังสามารถที่จะเลือก/ไม่เลือกลบเองได้
12. เมื่อเลือกได้แล้วว่าจะลบหรือไม่ลบโปรแกรมอะไรบ้าง ให้ click Next
Tools ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก Windows

13.  มีข้อความให้คุณยืนยันก่อนทำการลบ ให้ click OK หากคุณต้องการดำเนินการต่อไป
Tools ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก Windows

14. ข้อความแจ้งว่าได้ลบโปรแกรมที่คุณเลือกลบแล้ว click OK เพื่อปิดกล่องข้อความ
15. click Next
Tools ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก Windows

16. นอกจากโปรแกรมที่เชื่อว่าสมควรลบออกแล้ว หากคุณยังต้องการลบโปรแกรมอื่น ๆ ที่เห็นควร คุณก็สามารถเลือกลบเพิ่มเติมได้ในหน้านี้ โปรดสังเกตุว่ารายชื่อโปรแกรมในกลุ่มนี้ ไม่มีการเลือกไว้ (ที่กล่องเลือกด้านหน้า) ดังนั้นคุณสามารถ click Next ข้ามไปได้โดยไม่มีการลบโปรแกรมใด ๆ
จากรูปข้างล่างนี้ เลือกลบ Google Earth เพิ่ม เพื่อแสดงไว้เป็นตัวอย่าง
Tools ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก Windows

17. มีข้อความให้คุณยืนยันก่อนทำการลบ ให้ click OK หากคุณต้องการดำเนินการต่อไป
Tools ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก Windows

18. ข้อความแจ้งว่าได้ลบโปรแกรมที่คุณเลือกลบแล้ว click OK เพื่อปิดกล่องข้อความ
19. click Next
Tools ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก Windows

20. เป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนปิดโปรแกรม หากคุณต้องการแสดงความคิดเห็น หรือส่งข้อความถึงทีมงาน PC Decrapifier ก็ให้กรอกข้อความลงในช่อง แล้ว click Finish เพื่อออกจากโปรแกรม (หากมีข้อความใด ๆ จะส่งออกไปเองในระหว่างการออกจากโปรแกรม)
Tools ลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกจาก Windows
เป็นอันเรียบร้อยแล้ว สำหรับการกำจัดโปรแกรมที่ไม่ต้องการออกไปจากคอมพิวเตอร์ของคุณ หากมีการลบโปรแกรมออกไปในขั้นตอนที่ 12คุณจะเห็นได้ชัดเลย โดยเฉพาะการท่องเว็บว่าเร็วขึ้น และพวก icon หรือ tab ประหลาด ๆ บน web browser ของคุณก็จะหายไปด้วย

อ้างอิงจาก http://it-guides.com

วิธีลบลูกศรออกจาก SHORTCUT ICON

วิธีลบลูกศรออกจาก SHORTCUT ICON


วิธีลบลูกศรออกจาก Shortcut icon
การที่มีเครื่องหมายลูกศรเกาะติดอยู่ใน Shortcut icon นั้น ที่จริงแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรกับเครื่องและผู้ใช้แต่อย่างใด แต่สำหรับหลายท่านก็อาจรู้สึกว่าบดบังทัศนียภาพของ Desktop ที่ทุก shortcut ถูกลูกศรเกาะติดแน่น เปรียบเหมือนป้ายโฆษณาที่ติดกันทั่วกรุงเทพฯ เหมือนไม่มีกฎหมายควบคุมกันเลย
ดูจากคำแนะนำข้างล่างนี้ พร้อมรูปประกอบคำอธิบาย ที่คุณเห็นแล้วอาจจะรู้สึกสบายตากว่าเดิม จนอยากลองทำดูก็ได้ ไม่เสียหายอะไร แทบไม่ต้องออกแรงกันเลยครับ 



1. Click ที่ Start
2. พิมพ์คำว่า "regedit" ในช่อง search แล้วกดปุ่ม Enter (หรือ click ที่คำสั่งที่แสดงข้างบน) 
วิธีลบลูกศรออกจาก Shortcut icon
3. จะมีหน้าต่าง Registry Editor ให้ click ที่ส่วนของ HKEY_CLASSES_ROOT
วิธีลบลูกศรออกจาก Shortcut icon
4.  เลื่อนลงมาจนพบส่วนของ "lnkfile" (ตัวอักษรแรกคือ L) แล้ว click เพื่อเปิดดู Key/Value ด้านขวา
วิธีลบลูกศรออกจาก Shortcut icon
5. ที่ "IsShortcut" ให้ click ขวา แล้วเลือก Delete เพื่อลบค่านี้ออก (บรรทัดนี้จะหายไป)
วิธีลบลูกศรออกจาก Shortcut icon
6. ปิดหน้าต่าง Registry Editor แล้ว restart Windows คุณก็จะพบว่า ลูกศรที่เกาะตาม shortcut icon บน Desktop หายไปแล้ว ถ้าอยากให้กลับมาเหมือนเดิม ให้คุณ click ขวาตรงพื้นที่ว่างของช่องขวามือนี้ เลือก New, เลือก String Value แล้วสร้างขึ้นมาใหม่ โดยพิมพ์ชื่อเดิมลงไป (IsShortcut) พอ restart Windows ก็จะกลับมาเกาะติด shortcut icon เหมือนเดิมครับ
รูปแสดง shortcut icon เปรียบเทียบก่อนและหลังลบลูกศรออกไป
วิธีลบลูกศรออกจาก Shortcut iconวิธีลบลูกศรออกจาก Shortcut icon

อ้างอิงจาก http://it-guides.com